ทำความรู้จักกับแคลเซียมเสริมกระดูกอาหารเสริมที่จำเป็นต่อร่างกาย

แคลเซียมเสริมกระดูก
          แคลเซียมเป็นหนึ่งในแร่ธาตุที่สำคัญมากสำหรับร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเสริมสร้างและรักษาความแข็งแรงของกระดูกและฟัน นอกจากนี้แคลเซียมยังมีบทบาทสำคัญในการหดตัวของกล้ามเนื้อ การส่งสัญญาณประสาท และการแข็งตัวของเลือด

สารบัญ

แคลเซียมเป็นหนึ่งในแร่ธาตุที่สำคัญมากสำหรับร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเสริมสร้างและรักษาความแข็งแรงของกระดูกและฟัน นอกจากนี้แคลเซียมยังมีบทบาทสำคัญในการหดตัวของกล้ามเนื้อ การส่งสัญญาณประสาท และการแข็งตัวของเลือด

การดูดซึมของแคลเซียม

การดูดซึมแคลเซียมในร่างกายจำเป็นต้องมีวิตามิน D เพื่อช่วยให้แคลเซียมถูกดูดซึมได้ดีขึ้น การดูดซึมแคลเซียมส่วนใหญ่เกิดขึ้นที่ลำไส้เล็ก และปริมาณที่ร่างกายต้องการจะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด เพื่อนำไปใช้งานหรือเก็บสะสมที่กระดูก

แหล่งที่มาของแคลเซียมเสริมกระดูก

แคลเซียมสามารถพบได้ในอาหารหลายชนิด เช่น นมและผลิตภัณฑ์จากนม (ชีส โยเกิร์ต) ผักใบเขียว (คะน้า บรอกโคลี) และปลาที่กินได้ทั้งกระดูก เช่น ปลาซาร์ดีน นอกจากนี้ยังมีอาหารที่เสริมแคลเซียม เช่น น้ำส้มที่เสริมแคลเซียม ซีเรียล และน้ำเต้าหู้

ปริมาณความต้องการแคลเซียมของร่างกาย

ปริมาณแคลเซียมเสริมกระดูกที่ร่างกายต้องการแต่ละวันแตกต่างกันไปตามอายุ ระดับกิจกรรม และสภาพสุขภาพ ตัวอย่างเช่น ผู้ใหญ่โดยทั่วไปต้องการประมาณ 1,000 ถึง 1,200 มิลลิกรัมต่อวัน ในขณะที่เด็กและวัยรุ่นที่กำลังอยู่ในช่วงเจริญเติบโตอาจต้องการมากกว่านั้น

ผลกระทบของการขาดแคลเซียมต่อกระดูก

การขาดแคลเซียมสามารถนำไปสู่ภาวะกระดูกบางหรือกระดูกพรุน (osteoporosis) ซึ่งทำให้กระดูกเปราะและเสี่ยงต่อการหักง่าย โรคกระดูกพรุนมักเกิดขึ้นในผู้สูงอายุ โดยเฉพาะผู้หญิงหลังวัยหมดประจำเดือน เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่มีผลต่อการดูดซึมแคลเซียม

การประเมินการได้รับแคลเซียม

การทราบว่าคุณได้รับแคลเซียมเสริมกระดูกว่าเพียงพอหรือไม่สามารถทำได้โดยการตรวจสอบอาหารที่บริโภคในชีวิตประจำวันและเปรียบเทียบกับคำแนะนำด้านการบริโภคที่กำหนดโดยหน่วยงานด้านสุขภาพ หากมีความกังวลเกี่ยวกับการได้รับแคลเซียมที่ไม่เพียงพอ ควรปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการเพื่อขอคำแนะนำ

คำแนะนำในการทานอาหารเสริมแคลเซียมเสริมกระดูก

แม้ว่าแคลเซียมจะสำคัญต่อร่างกาย แต่การบริโภคแคลเซียมเกินขนาดสามารถนำไปสู่ผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์ เช่น การเกิดหินในไต หรือความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของโรคหัวใจ เป็นต้น ดังนั้น ควรรับประทานแคลเซียมในปริมาณที่เหมาะสมและตามคำแนะนำของแพทย์หรือนักโภชนาการ

 

ข้อสรุปสำคัญ

การดูแลสุขภาพกระดูกเป็นสิ่งสำคัญตลอดชีวิต ไม่ใช่แค่ในช่วงที่เราแก่เท่านั้น นอกจากการทานแคลเซียมเสริมกระดูกเพียงพอแล้ว การออกกำลังกายก็มีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการออกกำลังกายที่เป็นน้ำหนัก เช่น เดินเร็ว วิ่ง หรือยกน้ำหนัก สามารถช่วยเพิ่มความหนาแน่นของกระดูกและลดความเสี่ยงของโรคกระดูกพรุน

Share :

Related Posts

หลอดเลือดหัวใจตีบ

ทำความเข้าใจเกี่ยวกับโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ

โรคหลอดเลือดหัวใจตีบคืออะไร โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ หรือที่รู้จักในชื่อการเกิดแผ่นพังผืดในหลอดเลือดหัวใจ (Coronary Artery Disease – CAD) เป็นภาวะที่มีการสะสมของคราบไขมันและสารอื่นๆ บนผนังหลอดเลือดหัวใจ ทำให้หลอดเลือดแข็งและแคบลง ซึ่งสามารถนำไปสู่การลดลงของออกซิเจนและสารอาหารที่ไหลเวียนไปยังหัวใจ โรคนี้เป็นสาเหตุหลักของอาการหัวใจวายและเสียชีวิตในหลายประเทศทั่วโลก   สาเหตุของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ สาเหตุหลักของโรคนี้คือการสะสมของคอเลสเตอรอลและสารพลาก (plaque) ภายในผนังหลอดเลือดหัวใจ ปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยง ได้แก่ การสูบบุหรี่ ความเครียด การบริโภคอาหารที่มีไขมันสูง การขาดการออกกำลังกาย โรคเบาหวาน

อ่านเพิ่ม »

ความสำคัญในการเลือกน้ำยาซักผ้าเด็ก

ความสำคัญในการเลือกน้ำยาซักผ้าเด็ก การเลือกน้ำยาซักผ้าสำหรับเด็กเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจอย่างยิ่ง เนื่องจากผิวของเด็กมีความบอบบางและมีความเสี่ยงต่อการระคายเคืองมากกว่าผู้ใหญ่ น้ำยาซักผ้าที่ออกแบบมาสำหรับเด็กจึงต้องมีคุณสมบัติที่เหมาะสมเพื่อคำนึงถึงความปลอดภัยและสุขภาพของเด็ก   คุณสมบัติของน้ำยาซักผ้าเด็กที่ดี     ปราศจากสารระคายเคือง: น้ำยาซักผ้าสำหรับเด็กควรปราศจากสารเคมีที่ทำให้เกิดการระคายเคือง เช่น สารฟอกขาว หรือสารกันเสียที่รุนแรง เพื่อป้องกันผิวหนังอ่อนไหวของเด็กจากการระคายเคือง     ส่วนผสมจากธรรมชาติ: หลายผลิตภัณฑ์เลือกใช้สารสกัดจากธรรมชาติ เช่น น้ำมันหอมระเหยจากพืช ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยทำความสะอาดเสื้อผ้าได้ดีเท่านั้น แต่ยังปลอดภัยต่อผิวของเด็ก     ไม่มีสารก่อภูมิแพ้: เลือกน้ำยาซักผ้าที่ไม่มีส่วนผสมของสารก่อภูมิแพ้ เช่น น้ำหอมและสีย้อมที่อาจทำให้เกิดอาการแพ้ในเด็ก

อ่านเพิ่ม »