โรคหลอดเลือดหัวใจตีบคืออะไร
โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ หรือที่รู้จักในชื่อการเกิดแผ่นพังผืดในหลอดเลือดหัวใจ (Coronary Artery Disease – CAD) เป็นภาวะที่มีการสะสมของคราบไขมันและสารอื่นๆ บนผนังหลอดเลือดหัวใจ ทำให้หลอดเลือดแข็งและแคบลง ซึ่งสามารถนำไปสู่การลดลงของออกซิเจนและสารอาหารที่ไหลเวียนไปยังหัวใจ โรคนี้เป็นสาเหตุหลักของอาการหัวใจวายและเสียชีวิตในหลายประเทศทั่วโลก
สาเหตุของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
สาเหตุหลักของโรคนี้คือการสะสมของคอเลสเตอรอลและสารพลาก (plaque) ภายในผนังหลอดเลือดหัวใจ ปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยง ได้แก่ การสูบบุหรี่ ความเครียด การบริโภคอาหารที่มีไขมันสูง การขาดการออกกำลังกาย โรคเบาหวาน และความดันโลหิตสูง ปัจจัยพันธุกรรมและอายุยังเป็นส่วนหนึ่งที่มีบทบาทในการเพิ่มความเสี่ยงเช่นกัน
อาการของโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
อาการหลักของโรคนี้คืออาการเจ็บหน้าอก (angina) ซึ่งอาจรู้สึกเหมือนมีอะไรมากดทับหรืออัดแน่นที่หน้าอก บางรายอาจมีอาการเหนื่อยง่าย หายใจลำบาก หรือรู้สึกไม่สบายที่คอ ขาหนีบ หรือแขน โดยเฉพาะเมื่อทำกิจกรรมทางกาย
การวินิจฉัยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
การวินิจฉัยโรคนี้อาจเริ่มต้นจากการตรวจร่างกาย และตรวจสอบประวัติการเจ็บหน้าอก การทำแผนภาพคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG) การทดสอบความพยายาม การสแกนด้วยสารทึบรังสี หรือการทำหัวใจแคโทเทอร์ไรเซชัน สามารถช่วยในการยืนยันการวินิจฉัย
การรักษาโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
การรักษามุ่งเน้นไปที่การควบคุมและลดปัจจัยเสี่ยง เช่น การเลิกสูบบุหรี่ การควบคุมอาหาร การออกกำลังกาย การใช้ยาลดคอเลสเตอรอล และยาแก้ปวด ในบางกรณีที่รุนแรง การผ่าตัดเช่นการต่อบายพาสหลอดเลือดหัวใจอาจจำเป็นต้องทำเพื่อฟื้นฟูการไหลเวียนของเลือด
ข้อสรุปสำคัญ
การเข้าใจและการจัดการกับโรคหลอดเลือดหัวใจตีบอย่างถูกต้องสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น หัวใจวาย และช่วยเพิ่มอายุขัยและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น